29 มิถุนายน 2553
10 เทศกาลแปลกๆของโลก !!! อึ้งกันเลย
1. สงครามมะเขือเทศกลาย เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดงานหนึ่งของโลกในหลายเมืองของในสเปนจะจัดงาน "ลาโทมาติน่า"แต่ที่โด่งดังที่สุดก็ที่เมืองบูญอลในวันพุธสุดท้ายของเดือน สิงหาคมของทุกปีประกอบไปด้วยการแสดงดนตรี การจุดพลุ ที่สำคัญมีมะเขือหนักกว่า 300,000ปอนด์ถูกผู้ร่วมงานละเลงปาใส่กันอย่างสนุกสนาน
ที่มาของเทศกาลนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด เริ่มมาตั้งแต่ปี 1944หรือไม่ก็ปี 1945บ้างก็บอกว่าเกิดขึ้นเพราะเป็นการแย่งชิงอาหารในหมู่เพื่อนๆการแสดงความ ไม่พอใจเมื่อนักเล่นดนตรีเล่นไม่ได้เรื่องหรือกระทั่งเป็นการชุมนุมต่อต้าน นายพล ฟรันซิสโก ฟรังโก ผู้นำจอมเผด็จการ
2. เทศกาลยูเอฟโอจัด ขึ้นช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีในเมืองโรสเวลล์ มลรัฐเม็กซิโกของสหรัฐฯซึ่งมีแฟนยูเอฟโอจากทั่วโลกจะมาชุมนุมกัน มีการประกวดแต่งชุดเอเลี่ยนการจะดอกไม้ไฟ รวมทั้งการเสวนาของแฟนพันธุ์แท้เรื่องยูเอฟโอเมืองโรสเวลล์กลายเป็นศูนย์ กลางของคนที่เชื่อว่ามีมนุษย์นอกโลกหลังจากในปี 1947 พบซากยานลึกลับในเมืองนี้
3. เมืองซอนกกายาวิ ประเทศฟินแลนด์เป็นสถานที่ "แข่งขันอุ้มเมียชิงแชมป์โลก"ใน ประจำเดือนกรกฎาคมของทุกปี การแข่งขันนี้เพิ่งเริ่มขึ้นในทศวรรษ 1990แต่คนท้องถิ่นบอกตลกๆ ว่ามันเริ่มมาชั่วนาตาปีแล้วเพราะเมื่อก่อนผู้ชายจะขโมยผู้หญิงจากหมู่บ้าน อื่นมาเป็นศรีภรรยาวันนี้รางวัลไม่ใช่ภรรยาและเป็นเบียร์น้ำหนักเท่าตัว ภรรยาของพวกเขา
ผู้ชายจะแบกภรรยาของตัวเอง หรือของเพื่อนบ้าน หรืออาจเป็นคู่รักเทคนิกการอุ้มมีหลายวิธี แต่ในภาพนี้เป็นเทคนิคที่นิยมมากที่สุดและก็สำเร็จมากที่สุดด้วยสถิติโลกที่ รอให้ทลายคือการอุ้มผ่านสิ่งกีดขวางระยะทาง 235.5 เมตรในเวลา55 วินาที
4. เทศกาลซานเฟอร์มินในเมืองปามโปลน่าประเทศ สเปน เป็นที่รู้จักสำหรับการวิ่งวัวกระทิง ใน 8 วันของเทศกาล 9 วันถนนในเมืองถูกสร้างสิ่งกีดขวางไว้ คนที่ร่วมแข่งขันแต่งชุดพื้นเมืองสีขาวผูกผ้าคลุมเอวและผ้าพันคอสีแดงรอ สัญญาณเตรียมวิ่งหนีการไล่ขวิดของวัวกระทิงที่ถูกปล่อยออกมาในถนนนั้นการ แข่งขันกินเวลาเพียง 2-3 นาที แต่ในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บเป็นร้อยอย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 1910 มีผู้เสียชีวิต 14 คน
5. ในเมืองเล็กๆ ชื่ออีเวรีย ประเทศอิตาลี ไม่ใช่การปามะเขือเทศแต่เป็นสงครามปาผลส้มระ หว่างงานคาร์นิวาล 3 วันจัดขึ้นในช่วงถือศีลบวช ชาวบ้านราว 3,000คนมารวมตัวกันที่ลานกลางเมืองที่มีประชากรไม่ถึง 25,000 คนนี้ เล่ากันว่าการปาส้มแป็นการรำลึกถึงการสู้รบต่อต้านจักรพรรดิผู้ข่มเหงกดขี่ ในศตวรรษที่12 ผู้ร่วมงานมารวมตัวกันตามถนนรอคอยขบวนกลุ่มอาสาสมัครเป็นศัตรูซึ่งใส่ชุดอัด นวมและหมวกป้องกันมาบนรถลากขณะที่ผู้ชมจะสวมหมวกหรือผ้าพันคอสีแดงเป ป็นสัญลักษณ์ว่าตัวเองไม่ใช่นักรบ
6. ในชนบทอันเงียบสงบและงดงามของอังกฤษ การแข่งกันเก็บชีสถูก จัดขึ้นในทุกเดือนพฤษภาคมผู้ท้างชิงไถลและล้มลุกคลุกคลานจากเขาที่สูงชัน เพื่อไล่ล่าชีสแห่งเมืองกลอสเตอร์หนัก 8 ปอนด์และทำเป็นรูปวงล้อผู้แข่งขันต้องเก็บชีสที่ปล่อยลงจากเนินเขาและมีความ เร็ว 70ไมล์ต่อชั่วโมงให้ได้ก่อนที่ชีสจะตกลงไปตีนเขาเชื่อว่าประเพณีย้อนไปใน อดีตเมื่อผู้คนในอดีตฉลองเวลาที่พระอาทิตย์เข้าใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุด โดยวงล้อชีสนั้นเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์นั่นเอง
7. นับตั้งแต่ทศวรรษ 1600 เมืองคาสตริลโลเดมูร์เซีย ประเทศสเปนจัด "ฉลองเทศกาลโกลาโช"ด้วย ประเพณี่การกระโดดข้ามเด็กทารกเทศกาลลี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัดสิ่งชั่ว ร้ายออกไปจากเมืองช่วงเดียวกับเทศกาลคอร์ปุสคริสตีของชาวคริสเตียนขบวน พาเหรดเป็นสัญลักษณ์การรวมกันของสิ่งชั่วร้ายมาในเมืองและพากพวกมันเข้าไป โบสถ์ และพื่อขับสิ่งชั่วร้ายของจากเด็กไร้เดียงสาเด็กทุกคนที่เกิดในปีที่แล้วจะ ถูกนำมานอนบนฟูกจากนั้นชายที่แสดงเป็นสิ่งชั่วร้าย หรือเอลโกลาโชก็จะกระโดดข้ามฟูกนั้นเพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งชั่วร้ายออกไป จากตัวเด็ก
8. เทศกาลแปลกประหลาดที่สุดของโลกไม่ใช่ของมนุษย์เท่านั้น ที่ลพบุรีของไทยเราเองก็จัดเทศกาลบุฟเฟต์สำหรับลิงกว่า600 ตัวที่อยู่ในเมืองนี้เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระรามที่ตบรางวัล ให้แห่หนุมานด้วยแผ่นดินที่กลายเป็นเมืองลพบุรี บุฟเฟต์หน้าวัดพระปรางสามยอดประกอบไปด้วยอาหารผักผลไม้สดๆ หลายร้อยกิโลกรัมพร้อมกับไอติมและเครื่องดื่มงานนี้กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ในท้องถิ่นซึ่งเต็มใจอย่างยิ่งเพราะกิจกรรมนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือน เป็นประจำทุกปี
9. เทศกาลหน่อไม้ฝรั่งในเมืองเอมไพร์ใน มลรัฐมิชิแกน งานนี้อุทิศแด่หน่อไม้ฝรั่งโดยเฉพาะมิชิแกนเป็นผู้ผลิตหน่อไม้ฝรั่งมากที่ สุดในสหรัฐแต่เพราะมิชิแกนรู้จักในด้านศิลปะมากกว่าการเกษตรจึงจัดงานนี้ ขึ้นซึ่งรวมถึงกิจกรรมแปลกในทุกเดือนพฤษาภาคมมีขบวนพาเหรดแต่งตัวเป็น หน่อไม้ฝรั่ง การประกวดแต่งบทกวีหน่อไม้ฝรั่งมีงานเลี้ยงอาหารนานาชนิดจากพืชชนิดนี้และตบ ท้ายด้วยเบียร์ที่ทำมาจากหน่อไม้ฝรั่งด้วย
10. ในเกาหลีใต้ช่วงเดือนกรกฎาคมจะมีเทศกาลบอร์ยอง อันเป็นเทศกาลอาบโคลนที่ มีชื่อเสียงสำหรับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติดินโคลนจากทุ่งนาไม่ หางจากชายหาดไม่ดีนักสำหรับการเกษตรกรรมแต่กลับอุดมด้วยแร่ธาตุซึ่งกลายเป็น แหล่งทำเงินให้กับผู้ผลิตเครื่องสำอางแต่ละปีดินโคลนจะถูกขุดขึ้นมาและขนไป ยังชายหาดให้นักท่องเที่ยวกลิ้งเกลือกและอาบเล่นอย่างสนุกสนานในกองโคลนอัน บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นโอกาสดีเพราะปกติแล้วจะมีการจำกัดการใช้โคลนเพื่ออุตสาหกรรมความงาม มาก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น